“PCC ยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานด้วย HCI ช่วยให้การบริหารจัดการและกระบวนการทำงานต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง 20 เปอร์เซ็นต์ สามารถสร้างสรรค์บริการหลากหลายได้เร็วขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
บริษัท โปรเฟสชั่นนัล คอมพิวเตอร์ จำกัด หรือ PCC เป็นหนึ่งในผู้วางระบบไอทีขนาดใหญ่ในประเทศไทย ให้บริการลูกค้ามายาวนานกว่าสามทศวรรษ ช่วยองค์กรต่างๆ ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิทัลด้วยบริการที่หลากหลาย
ตั้งแต่การทำ proof of concepts การพัฒนาแอปพลิเคชัน และการทดสอบ production environment ที่ผ่านมาสามารถสร้างความสำเร็จให้โครงการไอทีขนาดใหญ่ของภาครัฐหลายหน่วยงาน อาทิ บริษัท กรุงไทยคอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส จำกัด และกรมบัญชีกลาง
ความท้าทายเรื่องความมีเสถียรภาพของระบบ
ศักดิ์ณรงค์ แสงสง่าพงศ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเฟสชั่นนัล คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “PCC มีภารกิจในการให้บริการโซลูชันด้านไอทีที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและบริการคุณภาพสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคลากร กระบวนการทำงาน และผลประกอบการของลูกค้า”
“ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ของเราเป็นองค์กรภาครัฐ ความมีเสถียรภาพของระบบ การปรับขนาดการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ความปลอดภัย รวมถึงความง่ายและสะดวกในการใช้งาน และคุ้มค่าการลงทุน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาในเวลาที่เราสร้างสรรค์โซลูชัน หรือนำเสนอโครงการต่างๆ ให้กับลูกค้า”
“การมีโซลูชันหรือเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ จะมีส่วนเข้ามาช่วยนำพาลูกค้าของเราให้ก้าวสู่ความเป็นองค์กรที่ล้ำสมัย สามารถสร้างนวัตกรรมเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและทันท่วงที พร้อมประสบความสำเร็จอย่างงดงามตลอดเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิทัลในอนาคต”
ยกเครื่องดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัยด้วย HCI
PCC_ตัดสินใจเพิ่มประสิทธิภาพดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการและกระบวนการทำงานต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงสามารถสร้างสรรค์บริการหลากหลายได้เร็วขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
PCC_ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีไฮเปอร์คอนเวิร์จ (HCI) เป็นฐานรองรับให้แอปพลิเคชันเพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ลูกค้า รวมถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ใช้ในการดำเนินงานของบริษัท
ศักดิ์ณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อเราเปลี่ยนมาใช้ HCI เพื่อรวมศูนย์แอปพลิเคชันและการพัฒนาซอฟต์แวร์ ของบริษัท มาไว้บนแพลตฟอร์มเดียวที่บริหารจัดการได้จากที่เดียว ช่วยให้เราลดขั้นตอนในการจัดซื้อฮาร์ดแวร์ จากเดิมที่ต้องแยกซื้อมาเป็นการจัดซื้อแบบเดียวกันและใช้ร่วมกันได้ ทำให้การดูแลรักษาง่ายขึ้นมาก”
“นอกจากนี้ โซลูชันที่ตัดสินใจลงทุนยังสามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่นต่อเนื่อง ช่วยให้บริษัทมีความคล่องตัวมากขึ้น”
“PCC_ยังใช้ซอฟต์แวร์โซลูชันต่างๆ อีกหลายรายการ เช่น ซอฟต์แวร์ควบคุมระบบได้จากจุดเดียว ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการด้านไอที, Kubernetes Engine ที่เป็นเครื่องมือช่วยบริหารจัดการ container ทำงานบน cloud เพื่อใช้พัฒนาคลาวด์-เนทีฟ แอปพลิเคชันต่างๆ ด้วย”
รวมถึงการใช้ เครื่องมือการบริหารจัดการบนคลาวด์ ซึ่งช่วยให้สามารถจัดเตรียมระบบต่างๆ ได้เร็วขึ้น และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของแอปพลิเคชันต่างๆ ก่อนที่จะนำแอปพลิเคชันเหล่านั้นไปใช้งานบนสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
และโซลูชันที่ทำหน้าที่ให้บริการด้าน Network & Security เน้นเรื่องความปลอดภัยของแอปพลิเคชันและเน็ตเวิร์กที่ใช้ในกระบวนการทำงานภายในของบริษัท
ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง 20 เปอร์เซ็นต์
การพิจารณาอัพเกรดหลายๆ ระบบดังกล่าว ทำงานอยู่บนหลักการรวมศูนย์งานด้านไอทีมาไว้ที่เดียวกัน ช่วยให้ PCC ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และลดเวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชันลงจากเดิมใช้เวลาเป็นสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน สามารถอัพโหลดขั้นตอนการทำงานและการพัฒนาต่างๆ ขึ้นไปยังระบบได้โดยแทบไม่มีดาวน์ไทม์
ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และสามารถเพิ่มโหนดได้ในเวลา 1-2 วันจากเดิมที่ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ นอกจากนี้ทีมพัฒนาแอปพลิเคชันของ PCC_สามารถทดสอบหรือเรียกใช้ทรัพยากรได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง จากเดิมต้องใช้เวลา 2 ถึง 3 วัน