ดีอีเอส เตือนอย่าคิดสั้นรับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือขายบัญชีให้แก๊งมิจฉาขีพ กร้าวถ้าตรวจสอบพบ “ไม่รอด” ต้องถูกดำเนินคดีฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการทำความผิดฐานฉ้อโกงด้วยเช่นกัน มีระวางโทษทั้งจำและปรับ
นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ปัจจุบันพบผู้นำบัญชีธนาคารไปขายให้แก๊งมิจฉาชีพจำนวนมาก รวมถึงรับจ้างเปิดบัญชี เพื่อให้มิจฉาชีพใช้เป็นบัญชีม้าในการกระทำผิดฐานฉ้อโกง โดยใช้เป็นช่องทางในการรับเงินและถ่ายโอนเงินจากการกระทำความผิด ป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัว เพื่อใช้หลอกหลวงประชาชน
ทั้งนี้ อยากขอเตือนผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวให้หยุด เพราะเมื่อมีการตรวจสอบแกะรอยพบเส้นทางการเงินของแก๊งมิจฉาชีพ เจ้าของบัญชีเงินฝากที่เป็นผู้เปิดบัญชีม้าอาจต้องถูกดำเนินคดีฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการทำความผิดฐานฉ้อโกงด้วยเช่นกัน โดยอาจถูกดำเนิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 หรือ มาตรา 86
นอกจากนี้ กรณีที่ควรรู้ได้ว่า บัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด เจ้าของบัญชีจะมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542
ขณะนี้กระทรวงดิจิทัลฯ ได้สั่งการตรวจสอบขบวนการบัญชีม้าและมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง เพราะมีประชาชนถูกหลอกจากแก๊งมิจฉาชีพทุกวัน
ดังนั้น จึงอยากฝากเตือนประชาชนว่าช่วงนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก อย่าหลงเชื่อ อย่าโอนเงิน หากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงหรือผู้เสียหาย สามารถโทรสายด่วน 1212 ของกระทรวงฯ หรือสามารถแจ้งความผ่านออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com นอกจากนี้ ดีอีเอส ยังได้ประสานงานไปยังธนาคารทุกธนาคารทำข้อความเตือนประชาชนก่อนโอนเงินทุกครั้งอีกด้วย
“ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ต้องตระหนักถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ไม่รับจ้างเปิดบัญชี หรือขายบัญชีตน หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด” นพวรรณ กล่าว