“โตชิบา ไทยแลนด์ โตทะลุเป้าต่อเนื่อง 5 ปี เร่งเครื่องพร้อมโตต่อเนื่อง ลุยปี 68 เปิดตัวสินค้าใหม่ จับตลาด Mid to High แนะนำแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคนใหม่ ทาคาชิ โซริมาจิ พระเอก นักแสดงชื่อดังชาวญี่ปุ่น
อเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (รวมตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็ก (ไม่รวมทีวี) ในประเทศไทย ปี 2567 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 83,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 9% และเมื่อดูเป็นจำนวนเครื่อง มีประมาณ 21 ล้านเครื่อง เติบโตราว 4%
โดยแบ่งประเภทสินค้าเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าชิ้นใหญ่ (Major Appliance) ซึ่งประกอบด้วย ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าตลาดประมาณ 65,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตถึง 11% และเมื่อดูเป็นจำนวนเครื่อง มีประมาณ 5.6 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 8%
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดสินค้าชิ้นใหญ่เติบโตได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่ร้อนมากในช่วงหน้าร้อน ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างสูง
ในขณะที่สินค้ากลุ่มที่ 2 ได้แก่สินค้าขนาดเล็ก (Small Appliance) อาทิ หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น พัดลม เป็นต้น มีมูลค่าตลาดประมาณ 18,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตทรงตัว และจำนวนเครื่องประมาณ 15.4 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 3% อย่างไรก็ตามสินค้าชิ้นเล็กไม่เติบโตตามคาด เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง
ในส่วนผลการดำเนินงานของโตชิบา ไทยแลนด์ อเล็กซ์ มา เปิดเผยว่า “ปี 2567 เป็นปีที่บริษัทฯ ฉลองครบรอบดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 55 ปี และบริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยผลประกอบการรวมเติบโตสูงถึง 24% ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้มาก”
“โดยกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุดให้แก่บริษัทฯ ได้แก่ สินค้ากลุ่มตู้เย็น มีอัตราการเติบโต 20% รองลงมาได้แก่กลุ่มเครื่องซักผ้า เติบโตถึง 39% ในขณะที่กลุ่มสินค้าอื่น เช่นกลุ่มเตาอบไมโครเวฟ เติบโต 21% กลุ่มสินค้าหม้อหุงข้าว และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโต 10% กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับน้ำ อาทิ เครื่องทำน้ำอุ่น ทรงตัว”
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ แม้โตชิบาจะไม่เติบโต แต่ภาพรวมตลาดติดลบเกิน 10% เนื่องจากอากาศไม่เอื้ออำนวย และกลุ่มสุดท้ายคือเครื่องปรับอากาศ เติบโต 82% เพียงแต่สัดส่วนการขายไม่มาก และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2567) เราสามารถรักษาอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) เฉลี่ย 5 ปี ได้ถึง 15%”
จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องมาตลอดหลายปี ทำให้ปัจจุบัน โตชิบามีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับท็อป 3 ในเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยกลุ่มสินค้าไมโครเวฟ มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยแชร์ 29% กลุ่มตู้เย็น อันดับ 2 ด้วยแชร์ 15.9% กลุ่มหม้อหุงข้าว อันดับ 2 ด้วยแชร์ 9% และกลุ่มเครื่องซักผ้า อันดับ 3 ด้วยแชร์ 11.1 %
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โตชิบาเติบโตได้ต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับของตลาด จนส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดสูง มาจากความเชื่อมั่นในแบรนด์ ที่บริษัทฯ ทำกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะปี 2567 ที่ผ่านมา ที่ได้ หมาก ปริญ สุภารัตน์ มาช่วยสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ และขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยคุณภาพ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์โตชิบา ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคและคู่ค้า ในแง่ของความทนทาน ดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมไปถึงแนวความคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในรายละเอียด และความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ทำให้ผลิตภัณฑ์โตชิบาได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี
มากไปกว่านั้น ยังมีพันธมิตรทางการค้าที่ดี ที่เชื่อมั่นในโตชิบา ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม ทั่วถึง และมีการจัดการบริหารงานภายใน ทั้งในเรื่องซัพพลายเชน และการทำงานเป็นทีมเวิร์คได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
ปี 68 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 25%
อเล็กซ์ กล่าวเสริมว่า “สำหรับปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 25% และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อันดับ 1 ในประเทศไทย นอกจากนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยเน้นเจาะตลาดผู้ใช้กลุ่ม Mid to High ที่ให้ความสำคัญเรื่องดีไซน์ และคุณสมบัติสินค้ามากขึ้น จากปีที่แล้วที่เปิดตัวตู้เย็นซีรีส์ JapanDi สีขาว สวยโดดเด่น ได้รับการตอบรับดีมาก
ปีนี้จะมีสินค้ากลุ่มอื่นที่ออกมาเป็นซีรีส์เดียวกัน เพื่อเอาใจลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้เรามีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มอีกกว่า 500 แห่ง โดยเน้นขยายจุดวางสินค้ากลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น รวมไปถึงการทุ่มเงินในการปรับโฉมร้านค้าให้ดูสวย ทันสมัยขึ้น
อีกทั้งยังเพิ่ม Experience Store ที่เน้นการโชว์สินค้ากลุ่ม Smart Solution เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้ามามีประสบการณ์การใช้งาน ณ จุดขาย และเพิ่มจำนวนและพัฒนาคุณภาพพนักงานขายหน้าร้าน เพื่อสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง”
“สำหรับในส่วนการตลาด เราทุ่มงบเพิ่มขึ้นมาก นอกจากการทำการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์ และออฟไลนด์แล้ว ปีนี้ เราอัพเกรดแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นระดับภูมิภาค และยังมีแผนการตลาดอีกมากมายที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมการขาย และส่วนสุดท้ายที่ โตชิบาให้ความสำคัญ คืองานบริการ เพราะเราให้ความสำคัญกับลูกค้า
โดยมีแผนเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับให้บริการสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ มีการเพิ่มรถโมบายเซอร์วิส เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยเพิ่มทีมการให้บริการถึงบ้าน (Onsite service) รวมไปถึงการขยายจำนวนศูนย์บริการ และการปรับภาพลักษณ์ศูนย์บริการพรีเมียม และงานบริการให้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น” อเล็กซ์ กล่าวทิ้งท้าย
มีแผนขยายสินค้าใหม่ 53 รุ่น
เอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โตชิบาวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ไว้ 3 แกนคือ 1) เจาะตลาดแมส (Mass Segment) โดยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมี โดยส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคามิตรภาพเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง 2) ขยายฐานไปยังกลุ่มระดับกลางถึงบน (Mid to High Segment) ที่เติบโตขึ้นในทุกปี
กลุ่มนี้จะมีความต้องการมากขึ้นในเชิงต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดความจุใหญ่ขึ้น และ/หรือ สเปคบางอย่างที่มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขา อาทิ ต้องการความสะดวกสบาย ต้องการประหยัดเงิน 3) เจาะเข้าตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market)
โดยส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องดีไซน์ สเปค หรือเทคโนโลยี สำหรับปี 2568 นี้ เรามีแผนขยายสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยแบ่งเป็นกลุ่มตู้เย็นจาก 11 รุ่น กลุ่มเครื่องซักผ้า 19 รุ่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัว 16 รุ่น และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านอีก 7 รุ่น”
ธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า “ในปี 2567 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลอง โตชิบาครบรอบ 55 ปีแล้ว เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการสร้างแบรนด์ โดยใช้กลยุทธ์แอมบาสเดอร์มาร์เก็ตติ้ง หมาก ปริญ สุภารัตน์ ช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
โดยขยายฐานลูกค้ากลุ่มเดิมเข้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูสมาร์ท อบอุ่น และทันสมัยยิ่งขึ้น สำหรับในปี 2568 นี้ เราอัพเกรดแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีมิสเตอร์ ทาคาชิ โซริมาจิ พระเอกและนักแสดงชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาตอกย้ำภาพลักษณ์โตชิบา แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น โดยได้ปล่อยหนังโฆษณาชุดแรกทางโซเชียล และป้ายโฆษณาทั้งนอกและในสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงราย เชียงใหม่ หาดใหญ่ และภูเก็ตไปแล้วตั้งแต่ต้นปี
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี ของการดำเนินธุรกิจของโตชิบา ไทยแลนด์ ซึ่งตลอดปีบริษัทฯ มีกิจกรรมการการตลาดและแคมเปญที่หลากหลาย
ซึ่งช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดทีมงานชาวอิฐแดงทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เปรียบเสมือนอิฐแต่ละก้อนที่รวมกันเป็นกำแพงที่แข็งแรง รวมถึงพาร์ทเนอร์ ตัวแทนจำหน่ายที่ให้การสนับสนุนโตชิบาเป็นอย่างดี และลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์แบรนด์ ‘TOSHIBA’ จนบริษัทฯ เดินทางมาถึงปีที่ 55 ได้อย่างมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะเป็นอีกปีที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่น ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้กับคนไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ มาตรฐานประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของใช้งานของทุกคน เพิ่มความสะดวกสบาย เสริมสร้างสุขภาพที่ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โตชิบา ไทยแลนด์ มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับส่งเสริมการเติบโตของคู่ค้าและดีลเลอร์ให้เติบโตไปด้วยกัน และที่ขาดไม่ได้ คือการตอบแทนสังคม ด้วยกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อที่โตชิบา ไทยแลนด์จะได้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันกับสังคมไทย”