“สมิติเวช นำเทคโนโลยีและระบบเอไอ อำนวยความสะดวกการดูแลสุขภาพของคนทุกเจนเนอเรชัน แก้ Pain Points ประกาศเปิดตัว โรงพยาบาลบนฟ้า โรงพยาบาลบนดิน และโรงพยาบาลโบยบิน
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา ธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว การเปิดบริการรูปแบบใหม่ของกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช ในคอนเซ็ป Cloud Hospital คือ โรงพยาบาลบนฟ้า โรงพยาบาลบนดิน และโรงพยาบาลโบยบิน โดยมี นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช นพ.ภราดร กุลเกลี้ยง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา ร่วมงาน
การเปิดบริการนี้ เกิดขึ้นหลังจากนำร่องให้บริการประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกในช่วงที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้บริการสุขภาพทางไกลมากถึง 246,205 ครั้ง ช่วยประหยัดเวลาได้ถึง 30% เฝ้าติดตามสุขภาพโดยทีมสหวิชาชีพให้ผู้รับบริการกว่า 322 คน โดย 99% ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากค่าน้ำตาลสูงหรือต่ำเกินไป ในระยะแรกจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-20.00 น.
ซึ่งโครงการนำร่องดังกล่าว อยู่ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา และโรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี ที่ต้องการพัฒนาให้การบริการทางการแพทย์สู่ยุคดิจิทัล ขยายฐานการดูแลประชาชนในภาคตะวันออก ตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการในปัจจุบันและอนาคต
คิกออฟ โรงพยาบาล บนฟ้า-บนดิน-และโบยบิน
นพ.ชัยรัตน์ ปัญฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า “ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงอย่างมากและรวดเร็ว ความต้องการของผู้รับบริการก็เปลี่ยนไปเช่นกัน สมิติเวช ทำเรื่องเกี่ยวกับนวัตกรรมมากว่า 10 ปี และทุกนวัตกรรมสิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างคุณค่าให้กับผู้คน เราไม่ต้องการองค์กรแห่งความสำเร็จ แต่เราต้องการเป็นองค์กรแห่งคุณค่า เพราะเป็นประโยชน์กับชุมชน เป็นประโยชน์กับผู้รับบริการทั้งสิ้น”
“จากนี้ไป ใครอยากหาหมอแต่ไม่อยากมาโรงพยาบาล จะพบกับสมิติเวชในรูปแบบของ โรงพยาบาลบนฟ้า ด้วยระบบแพลตฟอร์มของ TeleSmartCare ให้คำปรึกษา วินิจฉัย และรักษาปัญหาสุขภาพเฉพาะบุคคล ผ่านระบบบริการสุขภาพทางไกลโดยแพทย์เฉพาะทาง”
“รวมทั้งนัดหมายแพทย์ จ่ายเงิน จัดส่งยาถึงบ้าน บริการช่องทางด่วนในการตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีน ช่วยแก้ปัญหา ผู้รับบริการไม่อยากมาโรงพยาบาล ไม่อยากรอนาน เน้นผู้รับบริการที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ผู้รับบริการที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตอบโจทย์การเข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้”
ถ้ามาโรงพยาบาลไม่อยากรอ สมิติเวช มีบริการ โรงพยาบาลบนดิน ที่มี Smart OPD / Smart IPD เป็นตัวช่วยของผู้รับบริการ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทั้งการดูประวัติการรักษา นัดหมายแพทย์ จ่ายเงิน แจ้งเตือนการกินยา ติดตามสถานะการผ่าตัด ติดตามแผนการรักษา ช่วยแก้ปัญหา ไม่อยากรอนาน คลายกังวล สะดวกสบาย เมื่อเข้ามาใช้บริการ โดยทุกอย่างเป็นแบบเรียลไทม์
รวมถึงกรณีที่ต้องการยกโรงพยาบาลไปอยู่ที่บ้านก็สามารถทำได้ ด้วย โรงพยาบาลโบยบิน เป็นลักษณะแพลตฟอร์มของ Samitivej@Home นำบริการของโรงพยาบาลไปสู่ผู้รับบริการที่บ้าน เช่น บริการเจาะเลือด บริการล้างแผล เฝ้าไข้ กายภาพบำบัด ดูแลมารดาหลังคลอด ด้วยทีมวิชาชีพ ช่วยแก้ปัญหา เมื่อผู้รับบริการไม่สะดวกมาโรงพยาบาล
โดยมีผู้ใช้บริการแล้ว 1,200 คน ดูแลสุขภาพคนในชุมชนมากกว่า 20 ชุมชน ช่วยฟื้นฟูความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่า 97% เมื่อทำกายภาพต่อเนื่องที่บ้าน ลดอัตราการกลับมารักษาซ้ำที่โรงพยาบาลมากกว่า 95%
ใช้ AI มอนิเตอร์ควบคุมโรค
นอกจากนี้ ยังนำระบบ AI เข้ามาช่วยในการมอนิเตอร์ควบคุมโรคของผู้รับบริการได้ดียิ่งขึ้น เหล่านี้คือ มิติใหม่ทางการแพทย์ที่สมิติเวชพยายามจัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการทั้งปัจจุบันและอนาคต
“โครงการนี้เป็นโครงการเพื่อชุมชนและเพื่อประเทศชาติ ถ้าสามารถนำโครงการนี้ไปขยายต่อ ไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องมีหมอจำนวนมาก และค่าใช้จ่ายต่างๆ จะลดลง เมื่อค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพลดลง ทุกคนแข็งแรง ค่าจีดีพีก็จะดีขึ้น นำไปสู่ประเทศชาติเจริญ นี่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชัน”
นพ.ชัยรัตน์ บอกอีกว่า ในเฟสต่อไปจะมีการนำระบบ AI เข้ามาใช้งานอีกมาก เพียงแต่ว่าต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะระบบ AI จะต้องมีความแม่นยำ ซึ่งโดยรวมจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนมาก ยกตัวอย่าง โรงพยาบาลบนดินสามารถช่วยผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจได้มากถึง 217 ราย ด้วยระบบ Smart Care ทำให้ทราบความเสี่ยงก่อนและสามารถช่วยชีวิตได้ นี่เป็นเรื่องของการสร้างคุณค่าอย่างแท้จริง
ทางด้าน นพ.ภราดร กุลเกลี้ยง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา กล่าวเสริมในส่วนของโรงพยาบาลโบยบินว่า “ในบางสถานการณ์ที่ต้องการกลับไปดูแลที่บ้าน สมิติเวชจะนำมาตรฐานทางการแพทย์ที่สูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องช่วยหายใจก็ดี การจัดเตียงดูแลผู้ป่วยที่บ้านก็ดี เพื่อทำให้เกิดความสะดวกสบายและเหมาะสมขึ้นกับคนไข้ในแต่ละราย”
“เช่น กรณีของผู้ป่วยรายหนึ่งที่เข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังเสื่อม โดยปกติจะต้องอยู่ดูแลที่โรงพยาบาล 7-10 วันจึงจะเริ่มหัดเดิน เราสามารถออกแบบแผนการรักษาแค่ 3 วัน และมีแพทย์ไปดูแลรักษาที่บ้าน มีพยาบาลตามไปดูแลติดตามอาการ ผู้รับบริการมีความสุขมากขึ้น และฟื้นตัวเร็ว ซึ่งมีตัวเลขแสดงผลชัดเจน เช่นรายนี้เพียงสัปดาห์เดียวสามารถเดินได้แล้ว”
ปัจจุบัน โรงพยาบาลโบยบิน ไม่เพียงให้บริการในเขตจังหวัดชลบุรี ยังครอบคลุมพื้นที่จังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา ซึ่งผลจากการวิจัยและดูแลเฝ้าระวังสุขภาพพบว่า ส่งผลดีกับผู้ป่วย ระยะเวลาฟื้นตัวเร็วกว่า 75% ลดอัตราการรักษาซ้ำ ระยะเวลารอคอยในโรงพยาบาล ลดเวลาการเดินทาง สามารถกลับมาทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม