ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ยูยู ในเครือบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU เสริมแกร่งพร้อมเดินหน้าหนุนภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ในการบริหารจัดการน้ำสูญเสีย (Non-Revenue Water) พลิกโฉมสู่ดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ผสานรวมความสามารถของ AI เฉพาะด้าน
อาทิ เทคโนโลยีการบริหารจัดการโครงข่ายท่อส่งน้ำด้วย Water Network Digital Twin แพลตฟอร์ม IoT สำหรับระบบการออกแบบ การมอนิเตอร์ การวิเคราะห์และกระบวนการดำเนินงาน ฯลฯ โดยการลงนามครั้งนี้ นำทีมโดย มงคล ตั้งศิริวิช (กลางซ้าย) ประธาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ประเทศไทย ลาว เมียนมา และ บดินทร์ อุดล (กลางขวา) กรรมการผู้จัดการ ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ โดยงานดังกล่าวมีขึ้นที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เมื่อเร็วๆ นี้
พร้อมกันนี้ ทางยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ ยังได้เยี่ยมชม Innovation Hub Bangkok ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่เป็นศูนย์รวมนวัตกรรมด้านการบริหารจัดการพลังงาน ระบบอัตโนมัติ ดาต้าเซ็นเตอร์ ซอฟต์แวร์อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีในการสร้างความยั่งยืนอีกมากมายอีกด้วย
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค โดย กุศล กุศลส่ง รองประธานฝ่ายธุรกิจ Home & Distributions ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ประเทศไทย ลาว และเมียนมา มอบผลิตภัณฑ์เต้ารับ สวิตซ์ไฟ ตู้ไฟฟ้า เบรกเกอร์ ลูกย่อยเบรกเกอร์กันดูด มูลค่ารวม 1,673,461 บาท ให้กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อช่วย ซ่อม สร้าง น้ำท่วมเหนือ-ใต้ เพื่อสนับสนุนให้ทีมช่างจิตอาสาเครือข่ายของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าไปให้บริการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้แก่ประชาชน โดยมีนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นตัวแทนรับมอบ
กุศล เผยว่า “บ้านหลังจากภาวะน้ำท่วม ระบบไฟฟ้าอาจมีการชำรุดสืบเนื่องจากตอนน้ำท่วม ซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัยในอนาคต ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่เรามีและสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างยั่งยืน ได้แก่ ตู้ไฟ เซอร์กิตเบรกเกอร์ ลูกย่อยเบรกเกอร์กันดูด รวมถึงสวิตช์ไฟ และเต้ารับ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยในการจ่ายไฟฟ้าในบ้าน เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละพื้นที่ แต่ละอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้รับไฟฟ้าในปริมาณที่เหมาะสม และยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันไฟดูดแก่ผู้พักอาศัยในกรณีที่ไม่คาดคิดอีกด้วย ดังนั้นตู้ไฟและอุปกรณ์ภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกบ้าน และสามารถติดตั้งได้รวดเร็วหลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว ซึ่งทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะช่วยผู้ประสบภัยในการติดตั้งอีกด้วย”
มงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว เมียนมา (ที่ 2 จากซ้าย) จัดทัพโซลูชั่นสำหรับสมาร์ทซิตี้ช่วยไทยเติมเต็มเมืองอัจฉริยะในงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติด้านสมาร์ทซิตี้ระดับโลก “10th IEEE International Smart Cities Conference (IEEE-ISC2- 2024)” ภายใต้หัวข้อ “เมืองอัจฉริยะ: การปฏิวัติเพื่อมนุษยชาติ” (Smart Cities : Revolution for Mankind) ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ถึง 1 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ แกรนด์ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ด้วยเทคโนโลยีการบริหารจัดการพลังงาน และระบบอัตโนมัติ พร้อมช่วยเมืองลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันเป็นไฮไลท์ของโซลูชั่นชไนเดอร์ อิเล็คทริค ด้านความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการจัดอันดับให้เป็น World’s Most Sustainable Companies for 2024 หรือ บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลก ประจำปี 2567 โดยนิตยสาร Time และ Statista โดยการจัดอันดับในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทและความมุ่งมั่นของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่แต่เฉพาะในองค์กรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นในการช่วยลูกค้าประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย
ในงาน ProPak Asia 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ประสิทธิ์ กานตกุล รองประธาน Industrial & Process Automation ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา “สุดยอดกลยุทธ์การทำธุรกิจยุคดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการไทย”พร้อมถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 และ IIoT (Industrial Internet of Things) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการผลิต โดยช่วยเปลี่ยนระบบโรงงานธรรมดา ให้เป็นโรงงานอัตโนมัติ หรือ สมาร์ทแฟคทอรี่ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจในประเทศรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว มีความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิต และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน เพื่อนำไปสู่เส้นทางความยั่งยืนอีกด้วย โดยได้เผยถึงโรงงานอัจฉริยะของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ได้รับการยอมรับจากสภาเศรษฐกิจโลกว่าเป็นประภาคารแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มาเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการโรงงานได้เห็นภาพถึงหลักการใช้เทคโนโลยีอย่างชัดเจน