“ภาคเอกชนผนึกกำลังหนุนไทยสู่ฮับโลจิสติกส์ ผ่านการจัดงานยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค LogiMAT Southeast Asia-LogiFOOD Southeast Asia 2024
หอการค้าไทย เผยจุดแข็งไทยคือศูนย์กลางการขนส่งที่ครบวงจรของภูมิภาค เชื่อมั่นปี 2567 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีระบบคลังสินค้าและการจัดการขนส่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
พร้อมสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าชั้นนำด้านโลจิสติกส์แห่งภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ชื่อ LogiMAT Southeast Asia -LogiFOOD Southeast Asia 2024 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2567 คาดตลอด 3 วัน มีผู้ร่วมเจรจาธุรกิจจาก 20 ประเทศรวมกว่า 6,000 ราย
ดร.กฤษณะ วจีไกรลาส กรรมการเลขาธิการ หอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยให้ความสนับสนุน โคโลญเมสเซ่ และเมสเซ่สตุ๊ตการ์ท รวมทั้งหน่วยงานพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมของไทย จัดงาน LogiMAT_Southeast Asia 2024 มหกรรมการแสดงสินค้าชั้นนำด้านโลจิสติกส์แห่งภูมิภาคเอเชีย
ภายใต้แนวคิด Man & AI Work Together ศูนย์รวมของนวัตกรรมโลจิสติกส์ ที่ครอบคลุมทุกธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น โซลูชันภายในคลังสินค้าอัจฉริยะ โลจิสติกส์อาหาร ระบบขนส่งควบคุณอุณหภูมิ เทคโนโลยีห่วงโซ่ความเย็นและบรรจุภัณฑ์
ตลอดจนการใช้ AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุน และยังถือเป็นเวทีในการพบปะและสร้างเครือข่ายธุรกิจ รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งไทยและนานาประเทศเพื่อเปิดโอกาสในการร่วมมือทางธุรกิจ การทำตลาดในต่างประเทศ หรือการร่วมพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ อีกด้วย
ขณะที่ หอการค้าไทยมีบทบาทในการสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ ผ่านการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการไทยกับนานาชาติ โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคที่การค้าและการขนส่งมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
โดยหวังว่างาน LogiMAT Southeast Asia 2024 จะเป็นเวทีที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเรียนรู้และพัฒนากระบวนการโลจิสติกส์ของตนเอง ผ่านการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบการจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ หุ่นยนต์ในการขนย้ายสินค้า และแพลตฟอร์มดิจิทัลในการติดตามการขนส่ง มาใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ธุรกิจของไทยสามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นในตลาดโลก
“เราหวังว่าการจัดงาน LogiMAT Southeast Asia 2024 ในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะธุรกิจ โลจิสติกส์ที่จะได้รับแรงบันดาลใจและข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้ปรับตัวต่อสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจของไทยให้สามารถขยายตลาดออกไปต่างประเทศ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ” กฤษณะ กล่าว
ผู้ร่วมงานกว่า 6,000 คน กับโอกาสเรียนรู้เทคโนโลยีโลจิสติกส์ชั้นนำ
ฮันส์ สโตเตอร์ กรรมการผู้จัดการประจำเอเชียของเมสเซ่สตุ๊ตการ์ท ในฐานะผู้แทนการจัดงาน LogiMAT Southeast Asia 2024 กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของการจัดงานในครั้งนี้ คือ การยกระดับให้พื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านอินทราโลจิสติกส์แห่งอนาคต
โดยคาดว่าผู้ร่วมงานกว่า 6,000 คน จะได้มาพบปะกับผู้จัดแสดงสินค้าที่เป็นตัวจริงในอุตสาหกรรม ที่ครอบคลุมห่วงโซ่โลจิสติกส์ ด้านโซลูชัน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ที่เป็นประโยชน์ภายในคลังสินค้าอัจฉริยะ รถยก สายพาน ระบบลำเลียง ระบบติดตาม
อีกทั้งโลจิสติกส์อาหาร เทคโนโลยีห่วงโซ่ความเย็น ระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาซื้อ-ขาย และสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศที่มั่นคง
โดยเฉพาะการได้ร่วมพูดคุยกับแนวหน้าของอุตสาหกรรมระดับภูมิภาค อาทิ กลุ่ม China Pavilion และกลุ่ม German Pavilion ที่มีนวัตกรรมพัฒนาขึ้นจากการสนับสนุนโดยรัฐบาลประเทศเยอรมนี
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการนำเสนอเทคโนโลยีการรักษาคุณภาพและความสดใหม่สำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อาหาร ในโซน LogiFOOD ซึ่งถือเป็นโซลูชันด้านการจัดการคลังสินค้าห้องเย็น ด้านอาหารแห่งใหม่ของอาเซียน รวมทั้งยังมีพันธมิตรหลักของเราคือ LogiSYM ที่จะมาจัดสัมมนาซึ่งเต็มไปด้วยความรู้ เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีห่วงโซ่ความเย็น และระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ อีกด้วย
“เราเชื่อมั่นว่างาน LogiMAT Southeast Asia – LogiFOOD Southeast Asia 2024 จะเป็นตัวกลางสำคัญในการเพิ่มพูนความรู้กับผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และยังช่วยเป็นเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ ผลักดันความก้าวหน้าของผู้ประกอบการในภูมิภาคให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล” ฮันส์ กล่าว
ด้าน ธวัช จินาพันธ์ นายกสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทย (TIA) กล่าวเสริมว่า งาน “LogiMAT_Southeast Asia 2024 ถือเป็นงานที่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์และคลังสินค้าอัจฉริยะได้มาอัพเดทนวัตกรรมใหม่ๆ โดยมีผู้แสดงสินค้ากว่า 130 บูธ จากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ โลจิสติกส์ คลังสินค้า และซัพพลายเชน เป็นต้น”
“ซึ่งปีนี้ ได้ขยายมาที่ LogiFood มีการนำเสนอโซลูชันโลจิสติกส์ด้านอาหาร ระบบควบคุมอุณหภูมิ ตลอดไปถึงการขนส่งครบวงจร ถือว่าตอบโจทย์ครบทุกมิติ ขณะเดียวกัน เราต้องการให้ผู้ที่เข้ามาชมงานได้รับประโยชน์จากสินค้าที่นำมาโชว์”
“รวมถึงการนำความรู้และสามารถนำไปใช้ในธุรกิจได้ ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าภาคการผลิตกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทำให้ขยายจีดีพีได้ยาก แต่สิ่งที่จะตอบโจทย์กับผู้ผลิตสินค้าคือ การขยายกำลังผลิตที่ไม่ต้องใช้แรงงานคน”
“ซึ่งเราสามารถออกแบบเครื่องมือใช้ระบบอัตโนมัติตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำได้ ช่วยลดการสูญเสีย ทำให้กระบวนการผลิตง่ายขึ้น ดังนั้น ในฐานะผู้จัดงานจึงอยากส่งต่อความเข้าใจนี้ถึงลูกค้าเพื่อประโยชน์โดยรวม โดยปีนี้ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกันจัดเตรียม Product Demonstration Show เพื่อสาธิตการทำงานของระบบ Smart Logistic ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายทางผู้รับสินค้า”