Tuesday, September 17, 2024
Industry4.0IoTNEWSOTSmart CityTechnologyThailand4.0

สวทช. โชว์ความสำเร็จ IDA Platform ช่วยโรงงานทำ Smart factory

สวทช. โชว์ความสำเร็จ IDA แพลตฟอร์ม เชื่อมโยงข้อมูลระบบภายในโรงงาน ผ่านเซนเซอร์และ IoT ช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานการผลิต ยกระดับอุตสาหกรรม 4.0

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ดร.รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการกลุ่มแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 

ร่วมกับ ดร.กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิต Plant 200 & Plant 400 บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด และ ธเนศ อิงสกุลรุ่งเรือง ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงความสำเร็จ กรณีศึกษา บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด นำ เทคโนโลยี IDA Platform แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ในการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรม 4.0

ความท้าทายของ ไลอ้อน 
ดร.กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิตฯ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด

ดร.กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิตฯ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจในการใช้บริการการเข้ามาร่วม i4.0 Platform เพราะบริษัทไลอ้อน มีอุตสาหกรรม 2.0 อุตสาหกรรม 3.0 มาก่อนหลายโรงงาน 

กระทั่งในช่วงปี 2016 บริษัท ไลอ้อนฯ จะมีการสร้างโรงงานใหม่จำนวนมากจึงมีการปรับให้ทันสมัย และพัฒนาหลายรูปแบบโดยได้เข้าศึกษาข้อมูลและร่วมโครงการกับศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ของ สวทช. ที่เข้ามาช่วยประเมินอุตสาหกรรม 4.0 จึงเข้าร่วมเพื่อเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม 4.0 

โดยมีการเชื่อมโยงระบบที่เปลี่ยนจากการใช้กระดาษ มาเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลเป็นระบบดิจิทัล ในการประเมินดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรม 4.0 (Thailand i4.0 Index) ทำให้ทราบประเด็นสำคัญที่โรงงานควรปรับปรุง 

ทางบริษัทฯ เน้นปรับปรุงด้านกระบวนการการผลิต หรือ Smart factory โดยนำ IDA Platform เข้ามาเติมจุดอ่อน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลพลังงานและแสดงผลในรูปแบบ Dashboard

โดยบริษัทสามารถนำมาประยุกต์ปรับใช้ต่อยอดขยายผลไปยังระบบอื่นๆ ภายในโรงงานภาย เช่น ระบบไอน้ำ (Steam System) ชิลเลอร์ (chiller) เครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่ ระบบน้ำหล่อเย็นของเครื่องจักร (Cooling Tower) ซึ่งขยายมาได้ 2 ปี แล้ว 

ทำความรู้จัก IDA Platform

สำหรับ เทคโนโลยี IDA Platform นั้น เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ตรวจจับสัญญาณต่างๆ จากเครื่องจักรในกระบวนการผลิต สู่การวิเคราะห์และบูรณาการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ทราบสถานะการทำงานของเครื่องจักร สามารถแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที ช่วยโรงงานลดต้นทุนด้านพลังงานในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC)

ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) กล่าวว่า แพลตฟอร์มไอโอทีและระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม (Industrial IoT and Data Analytics Platform: IDA Platform) เป็นโครงการนําร่องของศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน จากความร่วมมือระหว่าง ARIPOLIS-SMC สวทช. และพันธมิตรรัฐร่วมเอกชน 

โดยแพลตฟอร์มสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT เพื่อตรวจจับสัญญาณต่างๆ จากเครื่องจักรในกระบวนการผลิสู่การวิเคราะห์และบูรณาการข้อมูล ทําให้ทราบสถานการณ์ทำงานของเครื่องจักร นําไปสู่การบริหารจัดการการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและอนุรักษ์พลังงานซึ่งตอบสนองความต้องการในการลดต้นทุนของผู้ประกอบการ SMEs 

แพลตฟอร์ม IDA สามารถประยุกต์ใช้งานครอบคลุมได้หลายมิติ ได้แก่ 1.การตรวจวัดปริมาณการใช้พลังงานในโรงงาน (Energy Monitoring) โดยการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทราบต้นทุนรวมถึงภาพรวมด้านการใช้พลังงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในโรงงานให้คุ้มค่าสูงสุด 

2.การปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต หรือ Overall Equipment Effectiveness (OEE) โดยการเชื่อมโยงข้อมูลพารามิเตอร์ต่างๆ ของเครื่องจักรเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิผลโดยรวมที่บ่งบอกความพร้อมของเครื่องจักร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประสิทธิภาพการผลิต นำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างตรงจุดเพื่อเพิ่มความ สามารถในการผลิต (Productivity) แก่โรงงานอุตสาหกรรม 

และ 3.การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance) โดยการเชื่อมโยงข้อมูลพารามิเตอร์ต่างๆ ของเครื่องจักรมาวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง ถึงความเป็นไปได้ที่เครื่องจักรจะเกิดความเสียหายในอนาคต ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการซ่อมบำรุงได้อย่างทันท่วงที เป็นการช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาเครื่องจักรในโรงงาน ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งของแพลตฟอร์ม IDA

บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีได้นำแพลตฟอร์ม IDA มาใช้นำร่องใน Plant 4 โดยมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ติดตั้งระบบ ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ ภายในโรงงาน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม IoT และระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องจักรการผลิตสู่การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) อย่างอิสระ 

“ผลลัพธ์ที่ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ได้จากการใช้ IDA Platform ช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานในกระบวนการผลิต 60,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ต่อปี ลดค่าไฟฟ้าในกระบวนการผลิตได้หลักแสนบาทต่อเดือน โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้ไปพัฒนาระบบอื่นๆ ของโรงงานต่อไปได้” ดร.กิตติวัตร กล่าว

ธเนศ อิงสกุลรุ่งเรือง ผู้จัดการส่วนเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ติดตั้งระบบ กล่าวเสริมว่า “ส่วนมาก pain point ของโรงงาน คือ มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลนั้นได้อย่างเต็มที่ อาทิ ไม่มีการใช้ข้อมูลเพื่อการแจ้งเตือนเรียลไทม์เมื่อเกิดความผิดปกติหรือปัญหา ทำให้ทีมงานไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที” 

“ดังนั้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ จะช่วยให้โรงงานสามารถเห็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและยกระดับการผลิตได้อย่างมาก โดยสามารถเริ่มต้นได้ ด้วยเทคโนโลยี IoT เชื่อมต่อระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงผลในรูปแบบ Dashboard เพื่อแสดงค่าพลังงานทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเห็นข้อมูล” 

“และสามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางด้านพลังงานในกระบวนการผลิต รวมทั้งเห็นสถานะและประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรได้ทันที และสามารถวางแผนบำรุงรักษาเครื่องจักต่อไป”

ชวนโรงงานทั่วประเทศยกระดับขีดความสามารถด้วยเทคโนโลยี

ดร.รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการกลุ่มแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 (สวทช.) กล่าวว่า “จากกรณีตัวอย่างการประเมิน Thailand i4.0 Index ของบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้บริษัททราบทิศทางของการปรับปรุงองค์กร เห็นจุดแข็ง จุดอ่อน และระดับความพร้อมขององค์กร สามารถนำผลการประเมินที่ได้มาจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของบริษัทและบรรลุเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจได้ด้วย Digital Transformation”

“โดยนอกจากความสามารถในทางเทคโนโลยีแล้ว โรงงานต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับการรับการประเมิน Thailand i4.0 Index แบบ On-site โดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าและยังได้รับคำแนะนำสำหรับการพัฒนาต่อไป” 

“ได้รับบริการที่ปรึกษาจากศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ไม่ว่าจะเป็นการทดลองใช้ Testbed & Facilities SMC การทำคอร์สการฝึกอบรม การกำหนดกลยุทธ์ วางแผนปรับปรุงระบบขององค์กร การจัดทำแผนการลงทุน รวมทั้งการขอรับการส่งเสริมจาก BOI” 

“รวมถึงการนำอุปกรณ์ Solution ต่างๆ ไปใช้จริงในโรงงาน และ SMC ยังมี Campaign ให้เงินสนับสนุนสำหรับโรงงานที่สนใจทำ Implementation & Operation ด้วย” ดร.รวีภัทร์ กล่าวปิดท้าย