“บทสัมภาษณ์ แซนดีพ กัปปูร์ ผู้บริหารระดับเอเชียแปซิฟิก จาก HPE ในประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ที่กำลังเขย่าแทบทุกองค์กร รวมถึงคอนเซ็ปใหม่ของ HPE กับการเตรียมเทคโนโลยี AI สำหรับองค์กร
ในยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลง ที่ส่อเค้าว่าผลของมันจะยิ่งใหญ่กว่าการเปลี่ยนแปลงของอินเทอร์เน็ตเมื่อย้อนไปปี 1999 สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่ผ่านมาคือ การเกิดขึ้นของ ChatGPT เทคโนโลยี LLM กับการเปิดประเด็นเรื่อง AI ซึ่งที่จริงแล้ว AI เกิดมานานแล้ว
ผลกระทบของ AI ได้ส่งผลต่อหลายองค์กรตื่นตัวกับ AI ซึ่งไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่เฉพาะธุรกิจใดธุรกิจหน่ึง การใช้ชีวิตของผู้คน องค์กร ซึ่งมาพร้อมกับความต้องการใข้งาน ใข้ประโยชน์มันอย่างเต็มประสิทธิภาพ และต้องมีจริยธรรมการใช้ควบคู่กัน
ส่ิงที่ดีคือ การใช้งาน AI กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น หลายคนกำลังการูปแบบการใช้งานที่นำไปสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับองค์กรธุรกิจ นั่นคือการเดินทางขององค์กรกับการใ้งาน AI
ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรายขนาดใหญ่ทั่วโลกเป็นผู้เปิดประเด็น ริเริ่มใช้งานมันและสร้างบริการขึ้น อย่าง เมตา, AWS, Microsoft เป็นช่วงเวลาที่หลายคนกำลังสร้างบริการ รัฐบาล รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น
CIO World Business มีโอกาสได้พูดคุยกับ แซนดีพ กัปปูร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และดิจิทัล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก HPE ในประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ที่กำลังเขย่าแทบทุกองค์กร รวมถึงคอนเซ็ปใหม่ของ HPE กับการนำเทคโนโลยี AI สำหรับองค์กร
การขยับตัวครั้งสำคัญของ HPE กับคอนเซ็ป PCAI หรือ Private Cloud for AI
แซนดีพ กล่าวได้ว่า “เรานำหน้าไปกว่าคู่แข่ง ในประเด็นของการเป็นผู้นำ AI เข้ามาเสริมในผลิตภัณฑ์และบริการไอที สิ่งที่เราทำเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ที่ซีอีโอของเราได้ออกมาพูดถึงเรื่องของ การประมวลผลเวิร์คโหลดขององค์กรบนโครงสร้างพื้นฐานของตัวเอง”
“แต่อย่างไรก็ตามที่วันนี้ คลาวด์ได้ถูกใช้เป็นไปในลักษณะรูปแบบ โอเปอเรตติ้งโมเดล ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจเลือกว่าต้องการประสิทธิภาพอย่างไรเพื่อใช้ประมวลผลเวิร์คโหลด ด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสอดรับกับเงื่อนไขของกฎระเบียบของข้อมูล ได้ดีที่สุด”
“ย้อนไปเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา HPE ได้เปิดตัว คอนเซ็ปใหม่ที่เรียกว่า_PCAI หรือ Private Cloud for AI ที่จะเข้ามาช่วยองค์กรก้าวกระโดดการใช้ AI ลดภาระต่างๆ เรื่องโครงสร้างพื้นฐานในการเริ่มต้นใช้ AI ที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์”
“ซึ่งในกระบวนทำงานของ PCAI นั้น HPE ได้ออกแบบให้การใช้งานเกิดขึ้นง่ายที่สุด เพียงแค่การคลิก 3 ครั้งเท่านั้น”
“สิ่งที่เป็นความสำคัญอีกประการคือ HPE Private Cloud AI ได้พัฒนาขึ้นร่วมกับ NVIDIA ในเชิงของวิศวกรรม ซึ่งนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์ HPE GreenLake ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ของการบริหารโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรให้ง่าย และมีประสิทธิภาพ”
“การเสนอเทคโนโลยีด้วยแนวคิด PCAI นั้น สร้างความแตกต่างในที่องค์กรตัดสินใจที่จะเริ่มใช้งาน AI เป็นโซลูชันที่มีความครบถ้วนทั้งในเชิงขิงวิศวกรรม โครงสร้างพื้นฐาน อีโคซีสเต็มของซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่สามารถรองรับการใข้งานขององค์กรทุกขนาด หรือทุกอุตสาหกรรม”
สร้างความแตกต่างด้วยประสบการณ์จากลูกค้าองค์กร
แซนดีพ กล่าวว่า “อย่างที่ทราบว่า แพลตฟอร์มการประมวลผลของ NVIDIA กลายเป็นมาตรฐานของรูปแบบการประมวลผลที่ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพการประมวลผล โดยเฉพาะเรื่อง AI แน่อนนว่าเราเห็นความร่วมมือของอาร์ดแวร์เวนเดอร์หลายๆ แบรนด์ร่วมมือกับ NVIDIA ในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ ด้าน AI”
“แต่ในมุมของ HPE เรามีความแตกต่างเพราะ เรามีประสบการณ์อละองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสำหรับองค์กรโดยเฉพาะ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่าง โทรคมนาคม ธนาคาร หรือการผลิต ซึ่งที่ผ่านมาเราสามารถช่วยให้ลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมประสบความสำเร็จในการทำ Digital Transformation”
“สำหรับแนวคิด PCAI ที่เราเสนอนั้น เป็นการเสนอเทคโนโลยีที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะสำหรับองค์กรธุรกิจ ที่มีการทำงานร่วมกันในระดับวิศวกรรม เพื่อออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ใน PCAI”
“ยกตัวอย่างเรื่องของเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งอยู่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ HPE GreenLake ผสมผสานกับแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ประมวลผล AI แบบครบวงจรที่เรียกว่า AI Essentials เมื่อผสวกเข้ากับหลังงานประมวลผลบนเทคโนโลยีของ NVIDIA แล้ว นี่คือความร่วมมือทางวิศวกรรมที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดสำหรับลูกค้าองค์กร”
“HPE ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกเข้าใจถึงการเปลี่ยนของโลกธุรกิจโดยเฉพาะในเรื่องของ AI เราทราบดีว่าองค์กรจำเป็นต้องหาเทคโนโลยีด้าน AI เพื่อมาปลดล็อกการทำงานให้ไปได้ดีกว่า โดยพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับธุรกิจโดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความปลอดภัยของข้อมูล, ความคุ้มค่าของการลงทุน, พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้เป็นอย่างดี”
“กลยุทธ์แห่งความสำเร็จของพวกเรามีองค์ประกอบที่สอดรับกันไม่ว่าจะเป็น การมีโครงสร้างพื้นฐานทาง AI ที่แข็งแกร่งอย่างเช่นแพลตฟอร์ม HPE GreenLake ที่ช่วยในการสร้างระบบไฮบริดคลาวด์, การใช้ซอฟต์แวร์ AI อย่าง HPE Ezmeral ในการทำให้นักพัฒนาสร้างนวัตกรรมล้ำสมัยได้ดีกว่า, การมีฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าใครในตลาด ตลอดจนความร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีระดับโลกมากมาย เป็นต้น”
ข้อมูลและการประมวลผล หัวใจความสำเร็จ Mercedes-AMG Petronas F1
มีกรณีศึกษาความสำเร็จการใช้งาน AI ที่สามารถจับต้องได้และเป็นที่ประจักษ์ คือ ชัยชนะของทีมแข่ง Mercedes-AMG Petronas F1 Team ด้วยเช่นกัน โดย ไมเคิล เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการด้านไอที ของทีม Mercedes-AMG Petronas F1 ได้ร่วมอธิบายถึงหัวใจความสำเร็จของการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยให้ทีมสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันได้
เทย์เลอร์ กล่าวว่า “ในการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความเร็ว โดยใครที่สามารถบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่าก็จะสามารถสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยมกว่า”
“Mercedes-AMG Petronas F1 Team เป็นหนึ่งในทีมแข่งรถสูตรหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกีฬามอเตอร์สปอร์ต ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นักแข่งฝีมือเยี่ยม และกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม การเข้าใจถึงวิศวกรรมยานยนต์ที่ซับซ้อน และการทุ่มเทอย่างมากของทีมงานจะช่วยให้เราได้เปรียบแม้แค่เพียงเสี้ยววินาที ก็จะทำให้ทีมสามารถก้าวสู่ชัยชนะในการแข่งขันได้”
“ทีมงานจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในทุกรูปแบบ เพื่อประมวลผลดาต้าขนาดมหาศาลที่เกิดขึ้น ตั้งแต่การจำลองสถานการณ์ในการแข่งขัน, การออกแบบรถยนต์และการวิเคราะห์ข้อมูลข้างสนาม อย่างเช่น ในช่วงก่อนการแข่งขัน ทางทีมนักแข่งจะทดสอบการจำลองสถานการณ์เป็นหลายล้านครั้ง ก่อให้เกิดการสร้างข้อมูล CFD ได้มากถึง 50 เทราไบต์ต่อสัปดาห์”
“เราจำเป็นต้องหาโซลูชันไอทีที่มีประสิทธิภาพสูง จึงได้เลือกใช้โซลูชันจาก HPE เข้ามาช่วยและเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ไม่ว่าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง HPE Apollo 6500 และยังใช้เน็ตเวิร์กโซลูชันจาก HPE Aruba ที่ช่วยให้ทีมสามารถเร่งความเร็วในการทำงาน ลดเวลาในการจำลองสถานการณ์ก่อนการแข่งขัน จาก 3-4 วัน เหลือเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งขยายขีดความสามารถในการรวบรวมและประเมินข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ด้วย HPE PointNext อีกด้วย”
“ไม่ว่าจะเป็นบนการแข่งขันหรือในห้องปฏิบัติการ เรามุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศ และเทคโนโลยี HPE ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกระบวนการ เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของเราได้เป็นอย่างดี” เทย์เลอร์ กล่าว
“เราอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นของ AI ที่มีโอกาสมากมายที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ผ่านกรณีศึกษาการใช้งานหลากหลาย ดังนั้นการตัดสินใจสำหรับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในระดับองค์กรนั้น คงไม่พ้นเรื่อง การตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละธุรกิจ”
“รวมถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถตอบโจทย์ความคุ้มค่าของการลงทุนทางเทคโนโลยีได้อย่างดีที่สุด ผมคาดว่า PCAI ของ HPE จะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะทำให้องค์กรสามารถเริ่มต้นใช้งาน AI ได้อย่างรวดเร็ว และเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง” แซนดีพ กล่าวสรุป
Featured Image: freepik
